การติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ ใช่ว่าสามารถติดตั้งบนหลังคาในทิศทางตามที่ต้องการได้เลย แต่จำเป็นจะต้องคำนึงถึงทิศทางและมุมเอียงของหลังคาที่เหมาะสมด้วย เพื่อให้แผงโซลาร์เซลล์สามารถรับแสงได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในประเทศไทยที่แสงแดดเปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาล หากติดตั้งแผงไม่ถูกทิศ อาจทำให้การผลิตไฟฟ้ามีประสิทธิภาพลดลง และส่งผลต่อการคืนทุนและความคุ้มค่าของระบบโซลาร์เซลล์ที่ติดตั้งไป
การเลือกทิศทางที่เหมาะสมและการเข้าใจหลักการรับแสงตามฤดูกาล จะช่วยให้ระบบโซลาร์เซลล์ของคุณทำงานได้อย่างเต็มที่ ทั้งยังช่วยยืดอายุการใช้งาน และลดค่าไฟฟ้าได้จริง นอกจากนี้ ยังควรทราบถึงขั้นตอนการติดตั้งและการดูแลรักษาที่ถูกต้อง เพื่อให้การติดตั้งโซลาร์เซลล์ที่บ้านของคุณมีประสิทธิภาพและปลอดภัยสูงสุด
ช่วยประหยัดค่าไฟฟ้า : แผงโซลาร์เซลล์สามารถเปลี่ยนพลังงานจากแสงอาทิตย์มาเป็นไฟฟ้าใช้เอง ลดการพึ่งพาไฟฟ้าจากการไฟฟ้า ที่สามารถช่วยลดค่าไฟได้ถึง 40-60% โดยเฉพาะในช่วงกลางวันที่มีการใช้ไฟฟ้าสูง และสามารถคืนทุนได้ในเวลาไม่กี่ปี
ใช้พลังงานสะอาด เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม : ไม่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกหรือมลพิษ ช่วยลดภาวะโลกร้อนและปัญหาสภาพภูมิอากาศ
พลังงานแสงอาทิตย์ไม่มีวันหมด : ประเทศไทยมีแสงแดดแรงและยาวนานตลอดปี ทำให้การติดตั้งโซลาร์เซลล์เป็นแหล่งพลังงานที่เหมาะสมและยั่งยืน
เพิ่มมูลค่าให้กับสถานที่ : สถานที่ที่ติดตั้งโซลาร์เซลล์มักมีมูลค่าเพิ่มขึ้น เพราะสะท้อนการใส่ใจพลังงานสะอาดและความยั่งยืน
อายุการใช้งานยาวนานและดูแลรักษาง่าย : แผงโซลาร์เซลล์มีอายุการใช้งาน 25-30 ปี และต้องการการดูแลเพียงแค่ทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอเพื่อคงประสิทธิภาพการรับแสงแดดได้สูงสุด
ก่อนการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ ควรตรวจสอบว่าโครงสร้างของหลังคามีความแข็งแรงและสามารถรองรับน้ำหนักของแผงโซลาร์เซลล์ได้อย่างปลอดภัยหรือไม่ หากโครงสร้างหลังคาไม่แข็งแรงพออาจต้องเสริมโครงสร้างก่อนการติดตั้ง
การวัดทิศทางและตรวจสอบเงาบังจากต้นไม้หรืออาคารใกล้เคียงเป็นขั้นตอนสำคัญ เนื่องจากแสงที่ถูกบดบังอาจทำให้แผงโซลาร์เซลล์ผลิตไฟฟ้าได้น้อยลง โดยควรเลือกตำแหน่งที่ได้รับแสงแดดเต็มที่โดยเฉพาะในช่วง 9 โมงเช้าถึง 3 โมงเย็น
องศาเอียงในการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ จะส่งผลต่อประสิทธิภาพของการรับแสงเช่นกัน ซึ่งหากต้องการนำไปติดตั้งกับบ้านในกรุงเทพฯ แผงโซลาร์เซลล์ควรเอียงที่ประมาณ 15-20 องศา เพื่อให้สามารถรับแสงแดดได้มากที่สุด ทั้งยังช่วยลดคราบฝุ่นที่อาจสะสมได้อีกด้วย
ควรตรวจสอบระบบไฟฟ้าในบ้านให้มั่นใจว่าสายไฟและระบบกราวนด์ (สายดิน) อยู่ในสภาพดีและพร้อมใช้งาน
ควรมีพื้นที่รอบแผงโซลาร์เซลล์เพียงพอสำหรับการติดตั้งและบำรุงรักษาในอนาคต เช่น การทำความสะอาดหรือซ่อมแซม
การที่แกนโลกเอียงทำมุม 23.5 องศากับระนาบโคจรของโลกรอบดวงอาทิตย์ทำให้แต่ละพื้นที่ได้รับแสงอาทิตย์ในปริมาณไม่เท่ากัน ส่งผลให้มีอุณหภูมิต่างกัน รวมถึงช่วงเวลาของกลางวันและกลางคืนก็ต่างกันด้วยโดยในฤดูร้อนดวงอาทิตย์จะขึ้นเร็วและตกช้าส่วนเวลากลางวันจะมีระยะเวลายาวกว่ากลางคืน แตกต่างกับฤดูหนาวที่ดวงอาทิตย์จะขึ้นช้าและตกเร็ว และเวลากลางคืนจะยาวนานกว่ากลางวัน
①. วันที่ดวงอาทิตย์ขึ้นและตกตรงกับทิศพอดี
ในวันที่ 21 มีนาคม และ 23 กันยายน ดวงอาทิตย์จะขึ้นและตกตรงกับทิศตะวันออกและตะวันตกพอดี ซึ่งเป็นผลจากการที่แกนโลกเอียงในลักษณะที่ไม่ส่งผลกระทบต่อปริมาณแสงที่แต่ละซีกโลกได้รับทำให้เวลากลางวันและกลางคืนจึงมีความยาวเท่ากันทั่วโลก ปรากฏการณ์นี้เรียกว่า วันวสันตวิษุวัต (Vernal Equinox) ในเดือนมีนาคม และ วันศารทวิษุวัต (Autumnal Equinox) ในเดือนกันยายน
②. แสงอาทิตย์ทำมุมเฉียงไปทางทิศเหนือมากที่สุด
ระหว่างวันที่ 20–23 มิถุนายน ดวงอาทิตย์จะตั้งฉากกับเส้นทรอปิกออฟแคนเซอร์ (Tropic of Cancer) หรือประมาณละติจูด 23.5 องศาเหนือทำให้ซีกโลกเหนือได้รับแสงอาทิตย์มากที่สุดในรอบปี ช่วงกลางวันยาวที่สุดและกลางคืนสั้นที่สุด ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของฤดูร้อนในซีกโลกเหนือ
③. แสงอาทิตย์ส่องตรงและกลางวันกลางคืนเท่ากันอีกครั้ง
วันที่ 23 กันยายน ดวงอาทิตย์จะขึ้นและตกตรงกับทิศตะวันออกและตะวันตกอีกครั้ง เวลากลางวันและกลางคืนจึงมีความยาวเท่ากัน เป็นช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงในซีกโลกเหนือ และฤดูใบไม้ผลิในซีกโลกใต้
④. แสงอาทิตย์ทำมุมเฉียงไปทางทิศใต้มากที่สุด
ระหว่างวันที่ 20-23 ธันวาคม ดวงอาทิตย์ตั้งฉากกับเส้นทรอปิกออฟแคปริคอร์น (Tropic of Capricorn) หรือประมาณละติจูด 23.5 องศาใต้ ส่งผลให้ซีกโลกเหนือมีกลางคืนยาวที่สุดและกลางวันสั้นที่สุดในรอบปี เป็นช่วงเวลาเริ่มต้นของฤดูหนาวในซีกโลกเหนือ
และด้วยข้อจำกัดของความสูงในการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ ทำให้ต้องคำนึงถึงทิศทางในการติดตั้งเพื่อรับแสงแดด ดังนั้น การเลือกทิศทางที่เหมาะสมจึงมีความสำคัญต่อประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้าของแผงโซลาร์เซลล์อย่างมาก
การติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ในทิศที่เหมาะสม ส่งผลโดยตรงต่อปริมาณแสงที่ได้รับและประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้า โดยทิศทางต่าง ๆ มีผลต่อประสิทธิภาพการรับแสงดังนี้
ทิศเหนือช่วงเดือนพฤศจิกายน - กุมภาพันธ์ดวงอาทิตย์จะเฉียงลงใต้มากที่สุดส่งผลให้แสงส่วนใหญ่ถูกอาคารบัง แผงโซลาร์เซลล์รับแสงได้น้อยมาก ทำให้ผลิตไฟฟ้าได้ต่ำ
ทิศตะวันออก โคมไฟจะได้รับแสงได้ดีในช่วงเช้า-สาย ก่อนจะโดนตัวอาคารจะบดบังแสงในช่วงบ่าย-เย็นทำให้แผงโซลาร์เซลล์ผลิตไฟฟ้าได้ประมาณครึ่งวัน
ทิศตะวันตกแสงในช่วงเช้าจะถูกอาคารบดบัง แต่จะรับแสงได้ดีในช่วงบ่ายถึงเย็นทำให้แผงโซลาร์เซลล์ผลิตไฟฟ้าได้แค่ครึ่งวันเช่นกัน
ทิศใต้เหมาะสมที่สุดในการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ในประเทศไทย โดยเฉพาะช่วงเดือนกันยายน - เมษายนดวงอาทิตย์จะเฉียงลงใต้ โคมไฟไม่ถูกตัวอาคารบดบังแสง ดังนั้นแผงโซลาร์เซลล์จะสามารถผลิตไฟฟ้าได้สูงสุด แม้ในช่วงเดือนพฤษภาคม - สิงหาคมที่ดวงอาทิตย์อ้อมไปทางทิศเหนือเล็กน้อยแต่ประสิทธิภาพในการรับแสงยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี
| ทิศ/เวลา | 6:00 - 09:00 น. เป็นช่วงแสงรำไร จะชาร์จไฟได้เล็กน้อย ประมาณ 20-30 % | 9:00 - 12:00 น เป็นช่วงที่มีความเข้มขอแสงสูง ช่วงเวลานี้จะชาร์จไฟได้ดีมาก | 12:00 - 15:00 น. เป็นช่วงที่มีความเข้มขอแสงสูง ช่วงเวลานี้จะชาร์จไฟได้ดีมาก | 15:00 - 18:00น. เป็นช่วงแสงรำไร จะชาร์จไฟได้เล็กน้อย ประมาณ 20-30 % |
| ทิศเหนือ | รับแสงได้น้อยที่สุด | |||
| ทิศตะวันออก | ☀️ | ☀️ | ||
| ทิศตะวันตก | ☀️ | ☀️ | ||
| ทิศใต้ | ☀️ | ☀️ | ☀️ | ☀️ |
สรุปแล้วการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ทางทิศใต้ถือเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในประเทศไทย เนื่องจากสามารถรับแสงอาทิตย์ได้มากที่สุดและมีความสม่ำเสมอในช่วงเวลาสำคัญของวัน ทำให้เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้าได้สูงสุด ที่สำคัญ ควรติดตั้งในมุมเอียงประมาณ 15-20 องศา หากติดตั้งในกรุงเทพฯ และประมาณ 20-25 องศาในต่างจังหวัด เพื่อช่วยเพิ่มการรับแสงและลดผลกระทบจากเงาที่บดบังได้เป็นอย่างดี
โคมไฟถนน LED Solar Cell ถือเป็นนวัตกรรมที่ตอบโจทย์การใช้พลังงานสะอาดอย่างแท้จริง เนื่องจากเป็นโคมไฟที่ใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ในการชาร์จแบตเตอรี่ในช่วงกลางวัน และปล่อยพลังงานไฟฟ้าในเวลากลางคืนโดยไม่ต้องพึ่งพากระแสไฟจากการไฟฟ้า ทำให้ช่วยลดค่าใช้จ่ายได้อย่างยั่งยืน อีกทั้งยังเหมาะสำหรับทุกพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นถนนในหมู่บ้านจัดสรร โรงงาน ฟาร์ม พื้นที่ห่างไกล หรือแม้แต่บ้านพักอาศัยทั่วไป เนื่องจากติดตั้งง่าย ไม่ต้องเดินสายไฟซับซ้อน และดูแลรักษาได้สะดวก
การเลือกตำแหน่งติดตั้งมีผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพในการชาร์จพลังงานและการส่องสว่าง จึงควรพิจารณาจากปัจจัยดังนี้
บริเวณที่รับแสงแดดได้เต็มที่ : เลือกตำแหน่งที่ได้รับแสงแดดโดยตรงในช่วง 9.00-15.00 น. เพื่อให้แบตเตอรี่ชาร์จได้เต็ม
หลีกเลี่ยงสิ่งบดบัง : ไม่ควรติดตั้งใกล้ต้นไม้สูง อาคาร หรือป้ายโฆษณาที่บังแสงแดด
ติดตั้งในมุมเอียงเล็กน้อย : เพื่อช่วยลดการสะสมของฝุ่นและน้ำฝนบนแผงโซลาร์เซลล์
ยืดอายุการใช้งาน : ตำแหน่งที่เหมาะสมทำให้โคมไฟทำงานได้เต็มประสิทธิภาพและใช้งานได้ยาวนานขึ้น
การมีแสงสว่างเพียงพอในพื้นที่นอกอาคาร ถนน หรือทางเดินสาธารณะ ไม่เพียงช่วยสร้างบรรยากาศที่น่าอยู่ แต่ยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยในชีวิตประจำวัน อีกทั้งยังช่วยป้องกันอุบัติเหตุและลดความเสี่ยงจากเหตุไม่พึงประสงค์โคมไฟถนน LED Solar Cell จาก Boviga ถูกออกแบบให้มีประสิทธิภาพสูง ทนทานต่อทุกสภาพอากาศ ส่องสว่างได้นานตลอดคืน และช่วยลดค่าใช้จ่ายในระยะยาว นับเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า ทั้งยังสนับสนุนการใช้พลังงานสะอาดอย่างยั่งยืน
หากคุณกำลังมองหาโคมไฟถนน LED Solar Cell คุณภาพดีและได้มาตรฐาน Boviga พร้อมให้คำปรึกษาและจัดจำหน่ายหลากหลายรุ่นที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญของเราได้ฟรี เพื่อแนะนำโซลูชันที่เหมาะสมกับพื้นที่ของคุณ ติดต่อสอบถามหรือขอใบเสนอราคาผ่าน Line : @boviga หรือโทร 02-114-3656
