สรุปสาระสำคัญ
แสงไฟมีความสว่างในหลากหลายระดับ เพราะโทนสีของแสง มีผลต่ออารมณ์และประสิทธิภาพการทำงานโดยตรง ซึ่งสามารถแบ่งโทนของแสงไฟสีขาวตามค่าอุณหภูมิสีได้เป็น Warm White (2700-3000K) ที่ให้แสงในโทนเหลืองส้ม สร้างความรู้สึกอบอุ่น ผ่อนคลาย เหมาะกับห้องนอนและห้องนั่งเล่น, Cool White (3500-4100K) เป็นแสงโทนขาวธรรมชาติ ให้ความรู้สึกสบายตา เหมาะสำหรับห้องครัวหรือห้องน้ำ และแสงแบบ Daylight (5000-6500K) ที่เป็นแสงโทนขาวอมฟ้า สว่างจ้าที่สุด ช่วยกระตุ้นการทำงานของสมอง เหมาะกับโต๊ะทำงานหรือห้องเรียน ซึ่งนอกจากโทนแสงแล้ว ค่าความถูกต้องของสี (CRI) และการเลือกประเภทโคมไฟก็ล้วนส่งผลต่อประสิทธิภาพการใช้งานเช่นกัน
--------------------------------------------------
Table of Content
--------------------------------------------------
เคยสังเกตไหมว่า ทำไมบางห้องให้ความรู้สึกอบอุ่นน่านั่ง ในขณะที่บางห้องกลับชวนให้รีบทำงานเสร็จแล้วออกไปข้างนอก ? ซึ่งหลายคนอาจคิดว่าไฟมีหน้าที่แค่ให้ความสว่าง แต่ในความจริง “โทนสีของแสง” มีผลต่อทั้งอารมณ์ การมองเห็น และประสิทธิภาพการทำงานโดยตรง แต่ปัญหาที่มักเจอบ่อย ๆ ก็คือการเลือกสีของไฟผิดโทน เช่น ใช้แสงเดย์ไลท์ในห้องนั่งเล่นจนบรรยากาศแข็งเกินไป หรือใช้แสงวอร์มไวท์ในโต๊ะทำงานจนรู้สึกง่วงนอน ทำให้อยากแอบงีบ
การศึกษาความหมายของ Warm White, Cool White, Daylight ไปจนถึงการเลือกใช้แสงสว่างให้เหมาะกับกิจกรรม จะช่วยให้สามารถเลือกสีของไฟได้อย่างลงตัว ส่งผลต่อการใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ก่อนจะไปเจาะลึกถึงแสงไฟสีขาวแต่ละแบบ เรามาทำความรู้จักกับ 2 ค่าสำคัญที่ใช้ในการระบุคุณสมบัติของแสงกันก่อน
อุณหภูมิสีเป็นตัวกำหนดว่าสีของไฟจะออกโทนไหน ผ่านการวัดเป็นหน่วยเคลวิน (K) ยิ่งค่าต่ำ แสงจะออกโทนส้มอุ่น ยิ่งค่าสูง แสงจะขาว หรือขาวอมฟ้า การเข้าใจค่า K นี้จึงเป็นพื้นฐานสำคัญในการเลือกแสงไฟสีขาวที่เหมาะสม เช่น หากค่าเคลวินน้อยประมาณ 2700K ก็จะให้โทนสีและความรู้สึกอบอุ่น แต่หากค่าเคลวินสูง 6500K ก็จะให้ความรู้สึกสว่างจัด ตื่นตัว
CRI เป็นค่าความถูกต้องของสีเมื่ออยู่ภายใต้แสงไฟสีขาว ยิ่ง CRI สูง (มากกว่า 80) สีของวัตถุจะยิ่งใกล้เคียงกับที่มองเห็นภายใต้แสงธรรมชาติ

เมื่อเข้าใจพื้นฐานแล้ว มาดูกันว่าแสง Warm White, Cool White และ Daylight คือสีอะไร มีคุณสมบัติและเหมาะกับการใช้งานในพื้นที่ไหนบ้าง
Warm White หรือวอมไวท์ คือแสงที่มีค่าเคลวิน 2700k-3000K ซึ่งเป็นโทนสีเหลืองอ่อนไปจนถึงส้ม คล้ายกับแสงจากหลอดไส้แบบดั้งเดิม หรือแสงเทียน โดยมีคุณสมบัติ ดังนี้
Cool White หรือคูลไวท์ เป็นแสงธรรมชาติที่มีค่าเคลวิน 3500K - 4100K ซึ่งเป็นแสงไฟสีขาวที่ไม่ติดเหลืองแบบ Warm White และไม่ติดฟ้าแบบ Daylight เป็นแสงที่มีความสมดุลและเป็นกลางที่สุด โดยมีคุณสมบัติ ดังนี้

Daylight หรือเดย์ไลท์ เป็นแสงที่มีค่าเคลวิน 5000K-6500K ที่มีโทนสีขาวออกฟ้า คล้ายแสงแดดในช่วงเที่ยงวัน มีความเป็น Blue Light สูงที่สุด โดยมีคุณสมบัติ ดังนี้
การเลือกโทนแสงที่เหมาะสมเป็นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนทั้งในด้านความสวยงาม ความสบายตา รวมถึงประสิทธิภาพในการทำงาน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด การเลือกประเภทโคมไฟก็สำคัญไม่แพ้กัน หากต้องการติดตั้งไฟที่ซ่อนตัวกลมกลืนกับฝ้าเพดานเพื่อให้พื้นที่ดูเรียบและทันสมัย โคมไฟดาวน์ไลท์ฝังฝ้า คือคำตอบที่ลงตัว แต่ถ้าต้องการติดตั้งง่าย ไม่ต้องเจาะฝ้า สามารถใช้ได้แม้เพดานต่ำ โคมดาวน์ไลท์ติดลอย ก็เป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ โดยที่ Boviga มีตัวเลือกโคมไฟให้เลือกอย่างครบครันที่ผลิตจากวัสดุคุณภาพสูง แข็งแรง พร้อมรับประกัน 2 ปี และบริการหลังการขายที่ใส่ใจ ด้วยทีมงานมืออาชีพพร้อมช่วยแนะนำโคมไฟที่เหมาะกับพื้นที่และการใช้งาน ติดต่อสอบถามได้ที่ Line: @boviga หรือโทร. 02-114-3656
ข้อมูลอ้างอิง