ชวนรู้จักไฟบลูไลท์ และผลเสียต่อสุขภาพในสภาพแวดล้อมโรงงาน

แสงไฟสีฟ้า หรือที่เรียกกันว่า “ไฟบลูไลท์” กลายเป็นหนึ่งในประเด็นที่หลายคนเริ่มให้ความสนใจมากขึ้น โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมที่มีการใช้งานแสงสว่างจากหลอดไฟอย่างต่อเนื่อง เช่น โรงงานอุตสาหกรรมหรือสำนักงานต่าง ๆ แม้จะดูเป็นเพียงแสงธรรมดาที่ช่วยให้พื้นที่สว่างขึ้น แต่แท้จริงแล้ว ไฟสีฟ้าอาจส่งผลกระทบต่อทั้งดวงตาและผิวหนังได้หากได้รับมากเกินไป

แต่ไม่ใช่แค่หน้าจอมือถือหรือคอมพิวเตอร์ที่ปล่อยแสงสีฟ้าออกมาเท่านั้น หลอดไฟที่ใช้ในโรงงานอย่างหลอดฟลูออเรสเซนซ์ หรือแม้แต่หลอด LEDที่ไม่ได้ออกแบบเพื่อลดแสงสีฟ้า ก็ปล่อยพลังงานแสงในช่วงนี้ได้เช่นกัน ซึ่งอาจทำให้พนักงานที่ต้องทำงานภายใต้แสงเหล่านี้ตลอดทั้งวัน เสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพโดยไม่รู้ตัว

ไฟบลูไลท์คืออะไร ?

ไฟบลูไลท์ (Blue Light) คือแสงสีฟ้าที่มีความยาวคลื่นสั้นและพลังงานสูง อยู่ในช่วงประมาณ 380-500 นาโนเมตร ซึ่งสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า และโดยปกติแล้วแสงสีฟ้ามีทั้งแสงธรรมชาติจากดวงอาทิตย์ และแสงที่มนุษย์สร้างขึ้น เช่น แสงจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ รวมถึงหลอดไฟฟลูออเรสเซนซ์ และหลอดไฟสีฟ้าที่ใช้ในอุตสาหกรรม

แสงสีฟ้าไม่เพียงแต่ให้ความสว่างสดใส แต่ยังสามารถทะลุผ่านดวงตาและผิวหนังได้ลึกกว่าคลื่นแสงอื่น ๆ ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้เกิดความกังวลในเรื่องผลกระทบต่อสุขภาพ โดยเฉพาะกับพนักงานที่ต้องทำงานในสภาพแวดล้อมที่มีแสงนี้นาน 8–12 ชั่วโมงต่อวัน

ไฟบลูไลท์ส่งผลต่อสายตาอย่างไร ?

เนื่องจากแสงสีฟ้ามีพลังงานสูงและความยาวคลื่นสั้น ดวงตาจึงต้องทำงานหนักขึ้นเมื่อได้รับแสงนี้เป็นเวลานาน โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมที่ต้องเปิดไฟไว้ตลอดเวลา เช่น โรงงานหรือคลังสินค้า ที่ใช้หลอดไฟแสงขาวซึ่งมีสัดส่วนของแสงสีฟ้าสูง

อาการที่พบบ่อยจากไฟบลูไลท์

• ตาล้า มองภาพเบลอ : หากต้องใช้สายตาเป็นเวลานานในพื้นที่ที่มีแสงสีฟ้า จะทำให้กล้ามเนื้อตาตึงเครียด และรู้สึกตาล้าได้
• ปวดศีรษะ : การใช้สายตาในพื้นที่ที่แสงไม่เหมาะสมตลอดทั้งวัน อาจทำให้เกิดอาการปวดศีรษะได้
• เสี่ยงโรคจอประสาทตาเสื่อม (Macular Degeneration) :หากได้รับแสงสีฟ้าเป็นประจำ และต่อเนื่องเป็นเวลานานหลายปี

ยิ่งพนักงานต้องทำงานใกล้หลอดไฟสีฟ้า หรืออยู่ในพื้นที่ที่มีการสะท้อนแสงมาก ก็จะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงต่ออาการเหล่านี้ได้

ไฟบลูไลท์มีผลต่อผิวจริงหรือไม่ ?

หลายคนอาจไม่รู้ว่าแสงสีฟ้าสามารถทะลุเข้าสู่ผิวหนังชั้นลึกได้ แม้จะไม่ร้อนเหมือนรังสี UV แต่ก็สามารถก่อให้เกิดความเสียหายกับผิวในระดับเซลล์ได้

ผลกระทบของแสงไฟสีฟ้าต่อผิว

• เร่งการเกิดอนุมูลอิสระ : กระตุ้นให้เกิดภาวะ "ออกซิเดชัน" ในเซลล์ผิว ทำให้ผิวแก่เร็ว
• ผิวคล้ำเสีย :กระตุ้นเม็ดสีเมลานินในผิว ทำให้เกิดฝ้า กระ และจุดด่างดำ
• ผิวแห้ง อักเสบ : โดยเฉพาะในคนที่มีผิวแพ้ง่ายหรือไวต่อแสง
• ลดการผลิตคอลลาเจน :ผิวขาดความยืดหยุ่น หย่อนคล้อยเร็วกว่าปกติ
  

วิธีป้องกันและลดผลกระทบจากไฟบลูไลท์ในโรงงาน

1. เปลี่ยนมาใช้หลอดไฟ LED T8 ที่ปล่อยแสงสีฟ้าน้อย

หลอด LED T8 รุ่นใหม่ออกแบบมาเพื่อลดระดับของแสงสีฟ้า โดยเฉพาะรุ่นที่เป็น Warm White หรือ Daylight แบบ Soft Tone ซึ่งให้แสงนวลตา ไม่กะพริบ ลดอาการล้าตาได้ดีมาก เหมาะกับพื้นที่ทำงานที่ต้องการแสงสม่ำเสมอ

2. แจกจ่ายแว่นกรองแสงสีฟ้าให้แก่พนักงาน

โดยเฉพาะกับพนักงานที่ทำงานกับเครื่องจักรหรือต้องใช้สายตาเพ่งอย่างต่อเนื่อง แว่นกรองแสงสีฟ้าจะช่วยลดแสงสะท้อน ป้องกันอาการตาล้าและปัญหาสายตา

3. วางตำแหน่งแสงให้เหมาะสม

จัดวางแสงให้เหมาะสมกับพื้นที่การทำงาน หลีกเลี่ยงให้แสงส่องเข้าสู่ใบหน้าโดยตรง หรือใช้ม่านกันแสงร่วมด้วย เพื่อช่วยลดการสัมผัสของแสงสีฟ้า

4. ดูแลผิวจากแสงสีฟ้า

ดูแลผิวด้วยการทาครีมกันแดด โดยเฉพาะผู้ที่ผิวไวหรือมีประวัติผิวแพ้ง่าย ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามิน C, E เพื่อช่วยลดการทำร้ายผิวจากแสงสีฟ้า

ปกป้องสุขภาพสายตาของพนักงานในโรงงาน ด้วยแสงสว่างที่ปลอดภัยและมีคุณภาพ

แม้แสงไฟสีฟ้าในโรงงานจะไม่แสดงผลกระทบออกมาทันที แต่ในระยะยาวอาจสะสมจนเกิดเป็นปัญหาสุขภาพที่ต้องรักษาอย่างต่อเนื่อง การเลือกใช้หลอดไฟที่มีคุณภาพจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง

มาเลือกใช้หลอดไฟ LED T8จาก Boviga ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยลดการปล่อยแสงสีฟ้า ให้แสงสว่างนุ่มนวล ไม่กะพริบ ทั้งยังช่วยลดผลกระทบต่อดวงตาและสิ่งแวดล้อม แถมประหยัดพลังงานได้ถึง 40–60% มีอายุการใช้งานนานมากกว่า 50,000 ชั่วโมง คุ้มค่าในระยะยาว ติดตั้งโดยช่างผู้เชี่ยวชาญ เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในทุกพื้นที่ใช้งาน ติดต่อเราได้ที่ Line: @boviga หรือโทร 02-114-3656

ข้อมูลอ้างอิง

1. รู้จักแสงสีฟ้า (Blue Light) ภัยเงียบทำร้ายดวงตา เป็นอันตรายอย่างไร.สืบค้นเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2568 จาก https://samitivejchinatown.com/th/article/eyes-lasik/what-is-blue-light
2. แสงสีฟ้าคืออะไร?.สืบค้นเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2568 จาก https://pharmacy.mahidol.ac.th/th/knowledge/article/616/อันตรายของแสงสีฟ้าต่อสุขภาพดวงตา/