ติดต่อฝ่ายขาย Line: @boviga,  Tel. 02-114-3656 Email: sales@boviga.com

ค่าแสง K สำคัญอย่างไร ควรเลือกแบบไหนให้เหมาะกับพื้นที่ ?

September 25, 2025 1 min read

ค่าแสง K สำคัญอย่างไร ควรเลือกแบบไหนให้เหมาะกับพื้นที่ ?

เคยรู้สึกไหมว่าแสงไฟในบางห้องให้ความรู้สึกอบอุ่น น่านั่งพักผ่อน ในขณะที่บางห้องกลับทำให้รู้สึกแข็งกระด้างหรือแสบตา ? แต่รู้ไหมว่าความต่างนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความสว่างของแสงเพียงอย่างเดียว แต่ยังขึ้นอยู่กับ “อุณหภูมิสี” หรือค่าแสง K (Kelvin) ที่ส่งผลต่ออารมณ์ สายตา ไปจนถึงประสิทธิภาพในการทำงานอีกด้วย

ค่าแสง K คืออะไร ?

ค่าแสง K หรือ Kelvin ใช้บอกอุณหภูมิสีของแสงจากหลอดไฟ ซึ่งเป็นหน่วยวัดที่ใช้ในทางวิทยาศาสตร์เพื่อบอกถึงลักษณะของแสงสี ยิ่งตัวเลขต่ำ แสงจะยิ่งออกโทนอุ่น (เหลืองส้ม) แต่ถ้าตัวเลขสูง แสงจะออกไปในโทนเย็น (ขาวฟ้า) โดยค่าแสงเหล่านี้อาจไม่ได้ส่งผลต่อสีของวัตถุโดยตรง แต่ส่งผลต่อความรู้สึกของผู้ใช้งาน รวมถึงสุขภาพของสายตาหากเลือกไม่เหมาะกับกิจกรรม การเลือกค่าแสง K ที่เหมาะสมจึงเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างบรรยากาศและเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานในแต่ละพื้นที่

เปรียบเทียบค่าแสงแบบเข้าใจง่าย

เมื่อต้องเลือกซื้อไฟ หลายคนอาจเห็นว่ามีค่าแสงทั้ง3000K,4000K และ6500K ซึ่งแต่ละค่าจะเป็นสีอะไรนั้น สามารถหาคำตอบได้ ดังนี้

ค่าแสง 3000K ให้สีอะไร ?

แสง 3000K เป็นแสงวอร์มไวท์สีขาวอุ่นที่มีโทนเหลืองอ่อน ให้บรรยากาศอบอุ่น สบายตา เหมาะกับการพักผ่อน เป็นค่าแสงที่นิยมใช้ในห้องนอน ห้องนั่งเล่น หรือพื้นที่ที่ต้องการความผ่อนคลาย โดยคุณสมบัติของแสง 3000K ได้แก่

  • ให้ความรู้สึกอบอุ่นและผ่อนคลาย

  • ไม่ทำให้ตาเกิดอาการเมื่อยล้าง่าย

  • เหมาะสำหรับการใช้งานในช่วงเย็นและกลางคืน

  • ช่วยให้ร่างกายสามารถหลับได้ง่ายขึ้น

ค่าแสง 4000K ให้สีอะไร ?

แสง 4000K เป็นแสงคูลไวท์ ซึ่งแสงที่ได้จะไม่เหลืองหรือขาวเกินไป เป็นค่าแสงที่มีความสมดุลระหว่างความอบอุ่นและความเย็น เหมาะกับพื้นที่ที่ต้องการแสงสมดุล เช่น ห้องครัว ห้องทำงาน หรือพื้นที่อเนกประสงค์ โดยคุณสมบัติของแสง 4000K ได้แก่

  • ให้แสงที่เป็นกลาง โทนไม่หนาวและไม่อุ่นเกินไป

  • เหมาะสำหรับกิจกรรมที่ต้องใช้สมาธิปานกลาง

  • สามารถใช้ได้ตลอดทั้งวัน

  • เหมาะกับพื้นที่ที่มีการใช้งานหลากหลาย

ค่าแสง 6500K ให้สีอะไร ?

แสง 6500K เป็นแสงเดย์ไลท์ที่ให้ความสว่างสูงและคมชัด เหมาะกับพื้นที่ที่ต้องการการมองเห็นที่ชัดเจน เช่น โรงงาน โกดัง หรือพื้นที่ทำงานที่ต้องการความแม่นยำสูง โดยคุณสมบัติของแสง 6500K ได้แก่

  • ให้แสงที่สว่างและคมชัด ช่วยเพิ่มสมาธิ

  • สำหรับงานที่ต้องใช้ความแม่นยำ

  • ช่วยลดความเสี่ยงจากการมองไม่เห็น

  • เหมาะกับการใช้งานในเวลากลางวัน


ค่าแสง 6500K เป็นแสงเดย์ไลท์ที่เหมาะสำหรับโรงงาน

การเลือกค่าแสง K ให้เหมาะกับพื้นที่

การเลือกอุณหภูมิสีให้เหมาะกับพื้นที่เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะนอกจากจะส่งผลต่อประสบการณ์การใช้งานโดยตรงแล้ว ยังช่วยยกระดับประสิทธิภาพในการทำงานและลดความเมื่อยล้าทางสายตาได้ โดยมีแนวทางการเลือกค่าแสง K ให้ตรงกับวัตถุประสงค์การใช้งานแต่ละประเภท ดังนี้

1. บ้านพักอาศัย

สำหรับห้องนอนควรใช้แสงอุ่นที่มีค่า K อยู่ที่ 2700K-3000K เพื่อช่วยให้ร่างกายผ่อนคลายและนอนหลับได้ดีขึ้น เนื่องจากแสงสีนี้ช่วยกระตุ้นการผลิตเมลาโทนินตามธรรมชาติของร่างกาย ส่งผลให้หลับง่ายขึ้น ส่วนห้องครัวและห้องน้ำควรเลือกใช้ที่ 4000K เพราะให้แสงสีขาวสบายตา สามารถมองเห็นรายละเอียดได้ชัดขณะทำอาหาร หรือดูแลความสะอาด

2. สำนักงาน

ค่าแสงควรอยู่ระหว่าง 4000K-5000K เพราะเป็นแสงที่เหมาะกับงานที่ต้องการสมาธิและความตื่นตัว ทั้งยังช่วยลดอาการล้าทางสายตา อีกทั้งแสงในลักษณะนี้ยังจะไปกระตุ้นสมองและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน โดยไม่ทำให้รู้สึกอึดอัดเหมือนกับแสงสีขาวที่จ้าเกินไป รวมถึงไม่ทำให้ง่วงเหมือนแสงโทนอุ่น

3. โรงงาน หรือโกดัง

ในพื้นที่อุตสาหกรรมที่ต้องการความปลอดภัยและการมองเห็นอย่างชัดเจน ควรเลือกใช้ค่าแสงในระดับ 6000K-6500K หรือแสงเดย์ไลท์ เพราะให้ความสว่างสูง ทำให้มองเห็นวัตถุได้ชัดแม้ในพื้นที่เพดานสูง ลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุและช่วยให้การทำงานมีความแม่นยำมากขึ้น


นอกจากค่า K ควรศึกษาปัจจัยเสริมอื่น ๆ ควบคู่ไปด้วย

แม้ค่าแสง K จะเป็นตัวกำหนดบรรยากาศหลักของพื้นที่ แต่หากต้องการให้ระบบแสงสว่างตอบโจทย์ได้อย่างรอบด้าน ควรพิจารณาปัจจัยอื่น ๆ ควบคู่กันไปด้วย เพื่อให้ได้แสงที่ทั้งสวยงาม สบายตา ประหยัดพลังงานในระยะยาว ดังนี้

  • CRI (Color Rendering Index) : บอกความสามารถในการแสดงสีวัตถุให้เหมือนจริง ควรเลือก CRI 80 ขึ้นไป

  • Lumen กับ Watt :ค่า Watt คือการใช้พลังงาน ส่วนค่า Lumen คือความสว่างจริง ควรเลือกโคมไฟที่ให้ Lumen สูงแต่ใช้ Watt ต่ำ

  • ความสามารถในการปรับแสง (Dimming): หนึ่งในคุณสมบัติของโคมไฟที่สามารถปรับระดับความสว่างและสีของแสงได้ตามต้องการ มักใช้ในโซนห้องพักผ่อนทั้งในห้องนอนและห้องนั่งเล่น 


การเลือกค่าแสง K ที่เหมาะสมไม่เพียงแต่ส่งผลต่อบรรยากาศและอารมณ์ของผู้ใช้งาน แต่ยังช่วยให้แต่ละพื้นที่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังช่วยลดความเหนื่อยล้าทางสายตา และประหยัดพลังงานได้ในระยะยาว หากกำลังมองหาโซลูชันแสงสว่างที่ให้ค่าแสง K เหมาะกับการใช้งานในโกดัง หรือโรงงานโคมไฟไฮเบย์ จาก Boviga คือคำตอบ ด้วยการออกแบบที่รองรับการใช้งานหนัก ทนทาน ให้แสงสว่างสูง ประหยัดพลังงาน เหมาะสำหรับการใช้งานในโรงงานและพื้นที่โล่ง 

พร้อมบริการติดตั้งโดยทีมมืออาชีพ สนใจติดต่อสอบถามได้เลยที่ Line:@boviga หรือโทร02-114-3656 


ข้อมูลอ้างอิง

  1. The perfect lighting: Learn about color temperature and Kelvin.สืบค้นเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2568 จาก https://beslagdesign.com/en/inspiration-2/2023/08/25/the-perfect-lighting-learn-about-color-temperature-and-kelvin

เพิ่มเพื่อน LINE โทรศัพท์