โรคในเด็กที่กลับมาระบาดเมื่อถึงหน้าฝน RSV คล้ายหวัด แต่ร้ายแรงกว่ามาก

September 06, 2022 1 min read

โรคในเด็กที่กลับมาระบาดเมื่อถึงหน้าฝน RSV คล้ายหวัด แต่ร้ายแรงกว่ามาก

พอเข้าหน้าฝน โรคต่างๆ วนกลับมาระบาดอีกครั้ง ไม่เว้นแต่ในเด็กที่ยิ่งมีความเสี่ยงเนื่องจากการไปโรงเรียน

ช่วงนี้ตามโรงเรียนอนุบาลจนถึงประถมต้น พบเด็กติดหวัดกันมากมาย สาเหตุหลักเกิดจากการติดต่อกันภายในห้องเรียน เมื่อมีเด็กหนึ่งคนเป็นจนเกิดการแพร่เชื้อ จากหนึ่งเป็นสอง เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และอาจแพร่จากเด็กสู่ผู้ใหญ่ ผู้ปกครองที่ต้องดูแลบุตรหลานเมื่อไม่สบาย ก็เป็นสาเหตุทำให้ติดต่อกันทั้งบ้านได้

 

มีเชื้อไวรัสชนิดหนึ่ง คล้ายหวัด แต่ร้ายแรงกว่ามาก
นั่นคือ โรคทางเดินหายใจ RSV

RSV หรือชื่อเต็ม Respiratory Syncytial Virus เป็นเชื้อที่ก่อให้เกิดโรคในทางเดินหายใจ โดยเฉพาะเด็กเล็กที่อายุต่ำกว่า 5 ปี โดยเชื้อไวรัสอาจทำให้มีเสมหะมากทำให้ปอดเกิดอาการอักเสบ และทำให้เยื่อบุหลอดลมและทางเดินหายใจต่างๆ บวม จึงทำให้เด็กมีอาการเหนื่อยหอบและหายใจลำบาก

 

RSV เป็นเชื้อไวรัสที่สามารถติดต่อผ่านสารคัดหลั่งต่างๆ ในร่างกาย เช่น น้ำลาย น้ำมูก เสมหะ การไอ หรือสัมผัสเชื้อโรค โดยผู้ป่วยจะรับเชื้อไวรัสจากฝอยละอองจากการไอ จาม ของผู้ติดเชื้อ หรือสัมผัสสิ่งแวดล้อมที่ปนเปื้อนสารคัดหลั่ง เช่น โต๊ะ เก้าอี้ ลูกบิดประตู ของเล่น เป็นต้น ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะแสดงอาการหลังสัมผัสถูกเชื้อในระยะเวลา 4-6 วัน และสามารถแพร่กระจายเชื้อได้นาน 3 – 8 วัน โดยทั่วไปอาการจะเหมือนไข้หวัดธรรมดา แต่อาการจำเพาะของเชื้อนี้มักพบในเด็กเล็กคือหลอดลมฝอยอักเสบ เริ่มแรกจะมีอาการเพียงเล็กน้อย เช่นไข้ ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ จนถึงอาการรุนแรง เช่น หายใจหอบเหนื่อย อกบุ๋ม ได้ยินเสียงปอดผิดปกติ เสียงหายใจมีเสียงวี้ด รับประทานอาหารได้น้อยและซึม ซึ่งการรักษาส่วนใหญ่เป็นการรักษาตามอาการ และยังไม่มีวัคซีนรักษา

 

ภาพจาก www.nursesoulciety.com

 

โรคนี้สามารถพบได้ในผู้ป่วยทุกวัย แต่จะรุนแรงมากในเด็กเล็ก เด็กที่คลอดก่อนกำหนด และกลุ่มผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไปรวมไปถึงผู้ที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง เช่น เบาหวาน โรคปอด โรคหัวใจ หรือมีปัญหาเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกันร่างกายผิดปกติบกพร่อง

 

เนื่องจากโรคนี้ยังไม่มีวัคซีนป้องกันและสามารถเป็นซ้ำได้อีก การระวังไม่ให้เด็กติดเชื้อไวรัสจึงเป็นวิธีป้องกันที่ดีที่สุด สามารถทำได้โดยการหมั่นล้างมือให้เด็กบ่อยๆ รวมถึงผู้ปกครองหรือคนรอบข้างก็ควรล้างมือด้วยสบู่หรือแอลกอฮอล์เจลทุกครั้งก่อนสัมผัสหรือดูแลเด็ก หลีกเลี่ยงการจูบ หอมเด็ก และต้องใส่หน้ากากอนามัยป้องกันหากรู้สึกไม่สบาย หมั่นทำความสะอาดของเล่น ของใช้เด็ก และไม่พาเด็กไปสถานที่ที่มีคนเยอะ เท่านี้ก็สามารถลดโอกาสสัมผัสเชื้อนี้รวมถึงเชื้อโรคอื่นๆ ได้

 

อีกหนึ่งวิธีที่เป็นทางเลือกสำหรับการฆ่าเชื้อบนพื้นผิววัตถุ ของใช้ต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ทุกการสัมผัสสะอาด ปลอดภัยจากเชื้อ โดยไม่ทิ้งสารตกค้างใดๆ เครื่องฆ่าเชื้อด้วยรังสีUVC สามารถยับยั้งการทำงานของเชื้อโรค ไวรัส และแบคทีเรียได้ถึง99.99%ได้รับการรับรองระดับสากล และเป็นวิธีที่วงการแพทย์ใช้กันมานานแล้วสำหรับฆ่าเชื้อโรคในอุปกรณ์การแพทย์และสิ่งของต่างๆ โรงพยาบาล คลีนิค สถานเสริมความงาม โรงเรียน สำนักงาน ร้านค้า เลือกใช้ UVC Trolley  รถเข็นยูวีซี สามารถเคลื่อนย้ายไปยังห้องต่างๆ ได้ ครอบคลุมพื้นที่ได้ตั้งแต่ 50-100 ตารางเมตร ใช้งานง่าย มีรีโมตคอนโทรล และมีเซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหวของสิ่งมีชีวิต สะดวก ปลอดภัย ไร้กังวล

 

 

ที่มา: เว็บไซต์ nursesoulciety, กองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค, สมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย

 

✅ Boviga ผู้แทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ UV-C Philips

ปรึกษาฟรีกับผู้เชี่ยวชาญด้านแสง UV-C เพื่อการยับยั้งเชื้อโรค ท่านใดที่มีความสนใจติดตั้งโคมไฟฆ่าเชื้อ สามารถติดต่อเข้ามาได้ทาง Line: @boviga หรือโทร 02-114-3656 เรามีแอดมินคอยให้คำปรึกษาในเรื่องโคมไฟทุกประเภท

 

 


contact